ตลาดหุ้นพยายามฟื้นตัวเหนือการเทขายเพราะโคโรน่าไวรัส ความวิตกกังวลหมดไปแล้วใช่ไหม

ตลาดหุ้นพยายามฟื้นตัวเหนือการเทขายเพราะโคโรน่าไวรัส ความวิตกกังวลหมดไปแล้วใช่ไหม

เขียนเมื่อ 02/06/2020 09:00 GMT โดย Hussein Sayed หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดของ FXTM

ความวิตกกังวลเหมือนจะหมดไปแล้ว หุ้นสหรัฐฯ กลับมาทำจุดสูงสุดครั้งใหม่อีก ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น ทองคำถูกเทขายและหุ้นทั่วตลาดเอเชียและยุโรปกำลังฟื้นตัวจากการเทขายในสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจก็คือยังไม่มีการค้นพบวัคซีนป้องกันโคโรน่าไวรัสที่ทำให้เกิดการเทขายหุ้น โดยยอดผู้เสียชีวิตพุ่งไปที่ 563 รายในคืนวันพุธ นอกจากนี้ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันยังเพิ่มขึ้นอีก 2,987 ราย แล้วอะไรที่ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นล่ะ

ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของนักลงทุนในไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดได้เน้นถึงการปรับตัวดีขึ้นของกิจกรรมในภาคบริการและภาคการผลิตของโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ บริษัทจีนที่เป็นรัฐวิสาหกิจมีแนวโน้มที่จะเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อหุ้นหากตลาดร่วงลงหนัก ดังนั้น จึงช่วยบรรเทาไม่ให้นักลงทุนรายใหญ่ขายหุ้นที่ถืออยู่ แต่ก็มีการคาดว่าธนาคารกลางและรัฐบาลเตรียมพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนหลักที่ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้นล่าสุด ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้อัดฉีดเงินพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าไปในระบบการเงินและธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นแห่งแรกที่ปรับลดดอกเบี้ยลงในวันพุธเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัส

ช่วงกลางคืน จีนประกาศว่าอาจจะลดภาษีศุลกากรให้ผลิตภัณฑ์จากสหรัฐฯ มากกว่า 1,700 รายการ ซึ่งเป็นปัจจัยล่าสุดที่ทำให้ตลาดหุ้นบวกขึ้นในเซสชั่นเอเชียวันนี้ ไม่ว่าการดำเนินการนี้จะหมายถึง “ขั้นตอนที่สอง” หรือไม่ แต่ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนจะยังคงต้องจับตาดู อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนรู้สึกดีขึ้น

แม้ปัจจัยบวกทั้งหมดได้เกิดขึ้นในตลาดเงิน แต่ความเสี่ยงก็ยังไม่หมดไป เรายังคงไม่รู้ถึงผลกระทบที่แท้จริงจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสที่มีต่อประเทศจีนและเศรษฐกิจโลก หากการเติบโตของจีนลดลง 1-2% หุ้นจะปรับตัวลงทั่วโลกและจะกระทบต่อรายได้ของบริษัทอย่างแน่นอน

ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีที่บวกขึ้น 17 basis points ในสามวันที่ผ่านมาหลังแตะระดับ 1.5% ก็ยังคงต่ำกว่าระดับเมื่อต้นปี นักลงทุนพันธบัตรต้องการหลักฐานที่ชัดเจนถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นเพื่อเริ่มต้นคาดการณ์การเติบโตที่สูงขึ้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเรายังไม่ทราบผลดังกล่าว นอกจากนี้ ทองแดงซึ่งเป็นปัจจัยชี้นำอีกอย่างหนึ่งของวัฏจักรเศรษฐกิจมีราคาต่ำกว่าระดับในช่วงกลางเดือนมกราคมถึง 10% สินทรัพย์ในกลุ่มเหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นตัวอย่างมากเพื่อสะท้อนถึงการมองสถานการณ์ในแง่บวกที่แท้จริง มิฉะนั้น เราอาจคาดว่าจะได้เห็นความตกใจในราคาหุ้นอีกในอนาคต